การผลัดเซลล์ผิว คืออะไร จำเป็นหรือไม่?
การผลัดเซลล์ผิว คือผิวพรรณหน้าตาที่หมองคล้ำ นอกจากการทำร้ายจากมลภาวะต่างๆ ทั้งฝุ่นควันและแสงแดดแล้ว สาวๆ รู้หรือไม่คะว่าการไม่ได้รับการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวด้วยวิธีการสครับหรือขัดผิวก็เป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่สวยสดใส และเกิดปัญหาผิวหยาบกร้าน อีกทั้งยังนำมาซึ่งปัญหาสิวและริ้วรอยได้ง่ายอีกด้วย ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการผลัดเซลล์ผิวนั้นมีความสำคัญไม่น้อยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ เราจึงจะพาไปดูกันค่ะว่าการผลัดเซลล์ผิวนั้นคืออะไร มีความจำเป็นหรือไม่ ไปติดตามพร้อมๆ กันเลย
ผลัดเซลล์ผิว คืออะไร
การผลัดเซลล์ผิว คือ การที่ร่างกายจะทำการผลัดเปลี่ยนเอาเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออกอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งปกติแล้ว ร่างกายจะมีกระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวหนังเองทุก 28 วัน โดยการผลัดเซลล์ผิวนี้จะเกิดขึ้นบริเวณผิวหนังชั้นกำพร้านั่นก็คือ ชั้นบนสุดของผิว ซึ่งสิ่งที่หลุดลอกออกมาก็คือ ขี้ไคล ที่มีลักษณะซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ ประมาณ 15 – 20 ชั้น และยังมีเหล่าเคราตินที่จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่น และกักเก็บความชุ่มชื้นไว้รวมตัวอยู่ด้วย โดยขี้ไคลนั้นจะมีคอร์นีโอเดสโมโซม ที่มีบทบาทเป็นสะพานเชื่อมเซลล์ต่างๆ ให้ยึดติดไม่หลุดลอกออกจากกันและเมื่อผิวของคุณถึงวาระที่ครบวงจรของการผลัดเซลล์ผิว โดยเป็นช่วงที่ผิวได้รับความเสื่อมสภาพจากปัจจัยอื่นๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ฝุ่น ควันพิษ รวมถึงการอักเสบของผิว อีกทั้งเมื่อร่างกายมีการผลิตเอนไซม์ที่จะไปทำลายสะพานที่เชื่อมเซลล์เหล่านี้ให้หลุดลอกออกไป บวกกับสภาพผิวของบางคนที่มีปัญหาผิวมันด้วยแล้ว น้ำมันที่ผลิตออกมามากจะยิ่งมีทำให้เซลล์ผิวเหล่านี้เกาะตัวกันแน่นมากขึ้น
นอกจากนี้ ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น รังสี UV ตลอดจนมลภาวะต่างๆรวมถึงปัญหาของผิวที่ขาดความสมดุล ผิวขาดความชุ่มชื้น ระคายเคือง อ่อนแอ แพ้ง่าย รวมไปถึงการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ย่อมส่งผลให้การผลัดเซลล์ผิวในแต่ละครั้งช้าลงไปมากขึ้น จนนำไปสู่การสะสมขี้ไคลมากยิ่งขึ้น และทำให้ชั้นขี้ไคลหนาตัว ทำให้ผิวพรรณไม่สวยสดใส ผิวมีความหมองคล้ำ หยาบกร้าน ไม่อ่อนนุ่ม เกิดการอุดตันง่ายขึ้น รูขุมขนจะเริ่มกว้าง ทาครีมแล้วไม่ดูดซึม หรือครีมไม่เกาะติดผิว เป็นต้น ด้วยเหตุนี้การผลัดเซลล์ผิวจึงมีความจำเป็นอย่างมากทีเดียว เพราะหากไม่เกิดการผลัดเซลล์ก็ย่อมทำให้เกิดผลเสียต่างๆ ของผิวตามมาได้อย่างแน่นอน
เกิดอะไรขึ้น หากไม่ได้รับการผลัดเซลล์ผิว?
1.ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส
- หากไม่ได้รับการผลัดเซลล์ผิว ผิวของคุณก็จะไม่เรียบเนียนสดใส สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีริ้วรอย จุดด่างดำ ผิวโดยรวมจะดูแก่กว่าวัย เนื่องจากมีเซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมอยู่บนใบหน้า จนเกิดการชะลอตัวของกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่
2.มีสิวอุดตันและสิวอักเสบ
- เมื่อผิวหน้าไม่ได้รับการผลัดเซลล์ก็จะเกิดสิ่งสกปรกอุดตันตกค้างอยู่บนผิว ผสมรวมกับน้ำมันที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน ทำให้การผลัดเซลล์ผิวให้หลุดลอกออกไปตามกระบวนการธรรมชาติเป็นไปได้ยากขึ้น และเมื่อมีการอุดตันมากขึ้นเรื่อยๆ รูขุมขนก็จะกว้างขึ้น ทำให้เกิดปัญหาขนคุด และหากมีแบคทีเรียมาร่วมอยู่ด้วยแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า จะนำมาซึ่งปัญหาของสิวอักเสบและสิวอุดตัน ที่มีลักษณะแข็งๆ เป็นจุดดำๆทำให้ใบหน้าหมดสวยได้อย่างง่ายดาย
3.ประสิทธิภาพของครีมบำรุงทำงานได้ไม่เต็มที่
- สาวๆ คนไหนที่เป็นคนผิวแพ้ง่ายหรือผิวขาดน้ำ ก็จะส่งผลให้ผิวหนังมีการหลุดลอกออกมาเป็นบางส่วน ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ แทรกตามมาได้ เช่น เกิดอาการคัน เกิดเชื้อราและเกิดกระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่ไม่สม่ำเสมอ เมื่อทาครีมบำรุงก็อาจจะทำเนื้อครีมซึมซาบลงสู่ผิวได้ไม่ล้ำลึก ทำให้ประสิทธิภาพในการบำรุงเป็นไปได้ไม่เต็มที่ส่งผลให้ผิวไม่สวยสดใสดั่งใจต้องการ
วิธีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิว
จะเห็นได้ว่าการผลัดเซลล์ผิวนั้นมีความจำเป็นต่อผิวหน้าเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยให้ผิวของคุณกระจ่างใส ผิวแข็งแรงขึ้น ไม่หมองคล้ำ ชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวอ่อนเยาว์กว่าวัย สำหรับวิธีที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การผลัดเซลล์ผิวเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น เราก็มีมาแนะนำด้วยกัน 2 วิธีแล้ว ดังนี้
1.Mechanical Peeling
- การขัดผิวหน้าและตัว ด้วยวิธีทางกายภาพ เช่น การใช้ใยบวบ หินขัดตัว การสครับผิว หรือแม้แต่การกรอหน้าด้วยเกร็ดอัญมณี เป็นต้น แต่วิธีนี้โดยเฉพาะการสครับอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยการขัดผิวควรทำประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละไม่เกิน 10 – 15 นาที เพื่อปกป้องผิวไม่ให้ระคายเคืองจากการขัดมากเกินไป
2.Chemical Peeling
- การผลัดเซลล์ผิวโดยใช้สารเคมีจำพวก AHA และ BHA เป็นต้น เพื่อเข้าไปลอกผิวออกอย่างเป็นธรรมชาติ และบาดเจ็บน้อยกว่าการขัดแบบแรกนั่นเอง
การผลัดเซลล์ผิว จำเป็นต้องทำหรือไม่?
ต้องบอกเลยว่า การผลัดเซลล์ผิวนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะอย่างที่เราบอกไปเบื้องต้นแล้วว่าหากไม่ได้รับการผลัดเซลล์ผิวจะเกิดผลเสียใดต่อผิวบ้าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิวต่างๆ ความหมองคล้ำ ความไม่สดใสบนผิวหน้า ร่องรอยด่างดำ ริ้วรอยต่างๆ เป็นสาเหตุผิวแห้งและยังทำให้การทาครีมบำรุงไม่สามารถให้ประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่อีกด้วย เนื่องจากสภาพผิวที่สะสมชั้นขี้ไคลเอาไว้หนาจะยิ่งปกปิดรูขุมขนเอาไว้ เนื้อครีมที่เราชโลมเข้าไปบำรุงก็จะซึมซาบลงสู่ผิวได้ยาก ดังนั้น มีแต่จะส่งผลเสียต่อผิวแทบทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้น สาวๆ จึงควรหมั่นสครับผิวเพื่อกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ด้วยสครับสูตรอ่อนโยน หรืออาจจะใช้ใยบวบหรือใยสังเคราะห์ขัดผิวตอนอาบน้ำเป็นประจำก็ได้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เซลล์ผิวเกิดกระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์เก่าให้หลุดออกไป เผยเซลล์ผิวใหม่ให้ขึ้นมาแทนที่ได้อย่างสดใสและเรียบเนียนกว่าที่เคย